วันที่ 2 ธ.ค. 52 ไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยัน
- มีจำนวนผู้เสียชีวิต 187 ราย ไม่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต โรงพยาบาล สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถึงสถานการณ์โดยรวมตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2552 ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 สรุปได้ดังนี้
วันที่ 9 ธ.ค. 52 ไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยัน
- มีจำนวนผู้เสียชีวิต 189 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 2 ราย
- สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุใหม่ชนิด A ( H1N1) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งจำนวน ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ในช่วงสองสัปดาห์ และการกระจายที่กว้างขวางออกไปในหลายอำเภอ ประกอบกับการระบาดที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ที่มักเป็นศูนย์รวมของการจัดกิจกรรมต่างๆซึ่งมีบุคคลจากพื้นที่ต่างๆมาอยู่รวมกัน ประกอบกับข้อมูลแนวโน้มผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 7 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา แพร่ พิจิตร อุตรดิตถ์ และสุโขทัย นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น และมีการระบาดเป็นกลุ่มเกิดขึ้นในหลายพื้นที่
วันที่ 16 ธ.ค. 52 ไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยัน
- มีจำนวนผู้เสียชีวิต 190 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1 ราย
- สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุใหม่ชนิด A ( H1N1) มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่หากพิจารณาจากจังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) มารับบริการมากขึ้น ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจึงยังไม่น่าไว้ใจนัก
- ผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ และมีประวัติเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายประเภท ได้แก่ เบาหวาน ความดันสูง และหอบ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสป่วยรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรมีการรณรงค์ให้มีการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยรุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อนในกล่มผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังและสูงอายุให้เป็นที่เข้าใจแก่ประชาชนเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
วันที่ 23 ธ.ค. 52 ไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยัน
- มีจำนวนผู้เสียชีวิต 191 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1 ราย
สำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรคได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต โรงพยาบาล สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถานการณ์โดยรวมสรุปได้ดังนี้
- สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A ( H1N1) มีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้น จากข้อมูลจำนวนจังหวัดที่มีแนวโน้มผู้มารับบริการที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) เพิ่มมากกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับข้อมูลการเฝ้าระวังเฉพาะพื้นที่ที่ยังคงมีสัดส่วนการตรวจพบเชื้อคงที่อย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้ป่วยนอกที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และมีสัดส่วนการตรวจพบเชื้อในกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงยังคงต้องเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือซึ่งมีภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการระบาดได้ค่อนข้างสูง รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้
- ในการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถ ห้องน้ำสาธารณะ สถานที่จัดกิจกรรมต่า่งๆ เป็นต้น ควรมีจุดบริการล้างมือ เจลล้างมือ รวมทั้งรณรงค์ให้มีการล้างมือบ่อยครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A ( H1N1)
วันที่ 30 ธ.ค. 52 ไม่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยัน
- มีจำนวนผู้เสียชีวิต 191 ราย ไม่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรคได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต โรงพยาบาล สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถานการณ์โดยรวมสรุปได้ดังนี้
- โดยภาพรวมดูเหมือนว่าสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด A ( H1N1) น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น คือ มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ลดลง จังหวัดที่มีจังหวัดที่มีแนวโน้มผู้มารับบริการที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) เพิ่มขึ้น มีจำนวนลดลง แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีปัจจัยเอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรคระบบลมหายใจได้สูง เช่น สภาพภูมิอากาศที่เย็น การเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนจากหลากหลายมาร่วมชุมนุมกัน เป็นต้น ดังนั้นสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือน่าจะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- ในการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในช่วงเทศกาลปีใหม่ หากมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่(ถ้าการเดินทางใช้ระยะเวลามากกว่าการฟักตัวของเชื้อ ก็จะแสดงอาการในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว)ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ในวงกว้าง จึงควรมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อในที่ที่เป็นแหล่งชุมชนต่างๆ เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถ ห้องน้ำสาธารณะ สถานที่จัดกิจกรรมต่า่งๆ เป็นต้น ควรมีจุดบริการล้างมือ เจลล้างมือ รวมทั้งรณรงค์ให้มีการล้างมือบ่อยครั้ง และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วย
ที่มา: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ข้อมูลล่าสุด: 16.59 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2552